หน้าแรก > บทความ > UVA และ UVB แตกต่างกันอย่างไร ?

UVA และ UVB แตกต่างกันอย่างไร ?

ถ้าหากว่าเราพูดถึงเกี่ยวกับการป้องกันแสงที่มาจากแดด ใครหลายคนก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในการทาครีมกันแดดนั้นป็นเรื่องที่สำคัญที่ช่วยปกป้องผิวหนังทั้งบนตัวของร่างกายจากรังสีในแสงแดดได้ และหน้าที่ของครีมกันแดดนั้นช่วยทำให้ ไม่ให้ผิวถูกทำร้าย แต่สิ่งที่ใครหลายคนมองข้ามนั้น ในแสงแดดที่ส่องมายังบนโลกเรานั้น มีรังสีอยู่ 2 ประเภทที่เราได้รับการปกป้องจากผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด นั่นก็คือ รังสี UVA และ UVB ซึ่งในวันนี้ ZEN BIOTECH จะมาเผยกันว่าเจ้าสองรังสีนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ?

รังสี UVA คืออะไร ?

รังสี UVA เป็น รังสีอัตราไวโอเลตชนิด A (ultraviolet A-rays) ที่มีความยาวรังสีสูงถึง 300-400 MM ที่เป็นคลื่นแสงที่พบได้ตามทั่วไปในช่วงเวลากลางวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็นที่เป็นช่วงเวลาที่แดดจ้า อาจจะเป็นรังสีที่มีอัตราเข้าถึงสภาพผิวหนังของเราค่อนข้างสูง เนื่องจาก UVA เป็นรังสีที่มีอัตราความเข้มข้นในการเข้าถึงผิวหนังชั้นในมนุษย์สูง แม้อยู่ในอาคารหรือบ้าน รังสี UVA นั้นสามารถทะลุผ่านกระจกในอาคารชั้นครัวเรือนได้ ถ้าหากว่าผิวของคนเรานั้นได้รับรังสีที่มากจนเกินไป จะทำให้สุขภาพผิวหนังของมนุษย์นั้นเสื่อมโทรม อย่างเช่น ผิวคล้ำ หน้าหมองคล้ำ หรือ ฝ้าแดด รวมถึงจุดด่างดำอีกด้วย และอาจทำให้ผิวหนังของเรานั้นเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร

รังสี UVB คืออะไร ?

รังสี UVB เป็นรังสีอัตราไวโอเลตชนิด B (ultraviolet B-rays) ที่มีขั้นมีตอนเป็นชั้นเชิงที่มีความยาวคลื่นอยู่ระว่าง 290 – 320 MM ซึ่งเป็นคลื่นแสงที่เป็นรังสีที่มีอัตราเข้าถึงสภาพผิวหนังทั่วร่างกายของมนุษย์ที่ต่ำกว่ารังสี UVA แต่ก็มีคลื่นพลังงานที่สามารถปรับผิวชั้นนอกร่างกายของเราให้แปรสภาพความเป็น ผิวไหม้จากแดด และบางบริเวณของผิวเรานั้นอาจจะทำให้ไหม้เกรียมจากแสงแดดในระยะที่ค่อนข้างที่จะสั้น ถ้าเกิดว่าถ้าเรานั้นปล่อยให้เจ้าแสงรังสี UVB ในระยะยาวนั้นอาจจะก่อให้เกิดการกระตุ้น DNA ใต้ผิวหนังของเรานั้นเปลี่ยนสภาพเซลล์และอาจจะก่อให้เรานั้นเกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้

ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า รังสี UVA และ UVB คือรังสีอัลตาไวโอเลตที่ส่งผลทำให้สุขภาพผิวของคนเรานั้นหมองคล้ำ และทำให้ดูไม่มีออร่าอีกด้วย จนอาจจะทำให้ก่อให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆได้ และ UVA UVB นั้นต่างกันอย่างไร มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้รังสีสองชนิดนี้มีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนในยามกลางวันบ้าง

รังสี UVA และ UVB แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

UVA :

  1. UVA เป็นรังสีที่มีความยาวสูงที่สุด แต่พลังงานต่ำกว่ารังสี UVB ซึ่งสามารถทะลุเข้าถึงชั้นผิวหนังกำพร้าและหนังแท้ได้
  2. UVA เป็นรังสีที่ทะลุผิวหนังได้ทุกที่ ที่มีแสงแดดสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้กำแพงกระจกบนอาคารหรือบ้าน รังสี UVA ก็สามารถทะลุเข้าถึงรูขุมขนของเนื้อผิวของเราได้ในช่วงเวลากลางวัน
  3. UVA ทำให้เกิด สภาพผิวหนัง หม่นหมองและคล้ำ และก่อให้เกิดฝ้ากระจุดด่างดำ บริเวณใบหน้าเหี่ยว ที่ตีนกาขึ้นก่อนวัยอันควร

UVB :

  1. UVB คือรังสีที่ความยาวรัศมีที่สั้นกว่า UVA แต่ก็เป็นรังสีที่มีพลังงานสูงกว่าเช่นกัน แต่ก็อาจจะสามารถทะลุเข้าถึงผิวหนังชั้นกำพร้าได้เท่านั้น
  2. UVB เป็นรังสีที่ไม่สามารถทะลุเข้าผ่านกระจกบนอาคารได้
  3. UVB ก่อให้เกิด ผิวไหม้แดด จึงทำให้เป็นรอยคล้ำดำบางบริเวณที่ถูกอาบรังสีชนิดมากเกินไปและอาจส่งผล DNA ใต้หนังกำพร้าแปรสภาพเป็นเซลล์มะเร็งผิวหนังในอนาคต