หน้าแรก > บทความ > ว่านหางจระเข้พืชแห่งความเป็นอมตะ

ว่านหางจระเข้พืชแห่งความเป็นอมตะ

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ได้รับการยอมรับจากประชากรทั่วทุกมุมโลก และสรรพคุณมากมายของว่านหางจระเข้ก็เป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนาน ซึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบการใช้งานจากประโยชน์ของว่านหางจระเข้มาอย่างยาวนานกว่า 6,000 ปี ราชีนีเนเฟอร์ติและราชินีคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ก็ได้ใช้ว่านหางจระเข้เป็นเครื่องประทินโฉมเป็นประจำ ที่อีกซีกโลก อเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งกษัตริย์กรีกโบราณ ใช้ว่านหางจระเข้รักษาทหารในกองทัพด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ในปัจจุบันว่านหางจระเข้ยังได้ถูกนำมาสกัดทางเคมีเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวพรรณ เพราะในว่านหางจระเข้นั้นมีทั้งวิตามิน และ แร่ธาตุต่างๆ และในขณะเดียวกันก็ยังช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นใหม่อีกด้วย และที่สำคัญ ยังมีสารสำคัญอีก 2 ตัวที่โดดเด่นเรื่องผิวพรรณเลยก็คือ วิตามิน A และ วิตามินบี 12 เนื่องจากว่า สารสำคัญทั้ง2ตัวนี้ ยังช่วยทั้งลดริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ผิวแห้งกร้าน นอกจากว่านหางจระเข้จะช่วยเรื่องผิวแล้วก็ยังมีสรรพคุณดีๆอีกมากมายพอสมควร

สรรพคุณของว่านหางจระเข้มีอะไรบ้าง ?

1. วุ้นของว่านหางจระเข้สามารถใช้สมานแผลได้

2. ใช้รักษาอาการติดเชื้อ อักเสบ

3. ใช้รักษาแผลที่เกิดจากความร้อน เช่น ไฟไหม้

4. ใช้แก้พิษแมงกะพรุน ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนจากพิษ

5. มีสรรพคุณทางยาในการช่วยบำรุงข้อกระดูก

6. นำมาปอกเปลือก ล้างเมือกออก ต้มน้ำใช้เป็นยาระบาย ยาแก้ไอ

7. นำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

8. เนื้อว่านหางจระเข้บรรเทาอาการปวดฟันได้

9. รักษาอาการผิวไหม้แสบร้อนจากแสงแดด

10. ตัดเนื้อวุ้นเป็นแท่งเล็กๆ นำไปแช่เย็น ช่วยรักษาริดสีดวงได้

 

จะเห็นได้ว่าว่านหางจระเข้นั้นนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณแล้วที่สำคัญยังมีสรรพคุณที่ครบถ้วนอีกด้วย ดังนั้นเราจึงอยากให้ท่านมองหาอาหารเสริมที่มีสารอาหารที่ครบถ้วนและมี Exosome ซึ่งสกัดจากว่านหางจระเข้ด้วยเช่นกัน