อัพเดทเทรนด์เครื่องสำอาง 6 เทรนด์ที่มาแรงในปี 2023 !!
1. Eastern Medicine การประยุกต์ใช้องค์ความรู้ของการแพทย์แผนตะวันออก ในเรื่องของ พืช สมุนไพร สารสกัดจากสัตว์ หรือ แร่ธาตุ มาใช้ในเครื่องสำอาง มีการติบโตมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง ปี 2008 ซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆในความนิยมของการใช้ สารสกัดที่มาจากองค์ความรู้ของแพทย์แผนตะวันออก ซึ่งสารสกัดต่างๆจากธรรมชาติเหล่านี้ มีการใช้มาอย่างยาวนานในอดีต อย่างปรากฏใน ตำราการแพทย์แผนจีน ดังนั้นประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ รวมถึงความปลอดภัยของการใช้บำรุงผิวจึงทำให้ผู้คน เปิดใจ เชื่อมั่น ในสินค้าที่มีสารสกัดเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างที่เราคุ้นเคย เช่น การใช้ โสม ginseng ชาเขียว หรือ ใบแปะก๊วย gingko เป็นต้นเราจะเห็นแบรนด์ดังๆ ระดับโลก ก็เลือกใช้สารสกัดเหล่านี้ ซึ่งสารสกัดสมุนไพร พืช ตามศาสตร์ตะวันออกนี้ สามารถ ทำเป็นสูตรตำรับได้หลากหลายมาก เช่น บำรุงผิวให้กระจ่างใส ช่วยเรื่องฝ้า กระ สิว หรือช่วยชะลอวัย ช่วยเรื่องเส้นผมการงอกของเส้นผม และอื่นๆอีก
2.Skin Barrier Health ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่นควัน PM 2.5 หรือโรคระบาด โควิค ที่ทำให้ต้องใส่หน้ากาก ตลอด ทำให้คนในปัจจุบันทีปัญหาเรื่องของผิวแพ้ง่าย กันเยอะมาก สาเหตุมาจาก skin barrier ของผิวเรานั้นถูกรบกวนและทำลายทำให้ ผิวชั้นบนเราไม่แข็งแรง เทรนด์ในการ เสริมเกราะป้องกันผิว เสริมความแข็งแรงของผิวชั้นบน จึงตอบโจทย์คนเมืองกรุง คนวัยทำงานได้ดีมากๆ ทั้งยังรวมไปถึงตลาด เด็กๆด้วยเพราะเด็กๆ จะยังมีผิวที่ไม่แข็งแรง ดังนั้นจึงต้องการskincare ที่เข้ามาช่วยตรงนี้ อย่างเช่น ช่วยในการเพิ่ม ceramide ในผิว หรือ ช่วยเคลือบผิวเป็นเกราะป้องกันผิวอีกชั้นเป็นต้น
3.Peptides คือ กรดอะมิโนที่มาเรียงต่อกัน หรือเรียกอีกอย่างนึงว่าเป็นโปรตีนสายสั้นๆ ซึ่ง มีหลายชนิดมาก การเรียงตัวของกรดอะมิโนที่แตกต่างกันก็จะทำให้ peptide มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ความขาว ลดริ้วรอย ความยืดหยุ่นของผิว การฟื้นฟูผิว เป็นต้น ซึ่งทาง zen มีหลายนวัตกรรม เช่น X-50 Myocept เปปไทด์ชนิดนี้จะส่งแร่ธาตุ เช่น ทองแดงและแมกนีเซียมไปที่ผิวหนัง แร่ธาตุเหล่านี้ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นและช่วยให้ผิวหายจากแผลได้เร็วขึ้น หรือตัวที่หมอๆชอบกันมาก คือ Argireline, Palmitoyl tetrapeptide-28, Palmitoyl Tripeptide-38, เปปไทด์ชนิดนี้จะเข้าไปยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อ หากกล้ามเนื้อของคุณขยับได้ไม่มากริ้วรอยก็ไม่สามารถก่อตัวได้ เปปไทด์ชนิดนี้ใช้ได้กับริ้วรอยได้ดี
4.Skin boosters เนื่องจากเทรนด์ของการดูแลผิวพรรณ ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้หลายๆคน ออกไปคลินิกทำสวยเสริมหล่อทำผิวกันไม่ได้ เทรนด์ของการดูแลผิวด้วยตัวเองที่บ้านจึงเป็นกระแสที่นิยมขึ้นมา ซึ่งต่อเนื่องจากนั้นมา skincare ที่ทำเป็นสูตรที่เข้มข้น ที่เน้นให้เกิดผลลัพธ์แบบ รวดเร็ว หรือ แบบบำรุงแบบเข้มข้น จึงเรียกว่ากลุ่มของ booster เช่น hydration booster สูตรเติมน้ำให้กับผิวอย่างเร่งด่วน หรือ whitening booster ซึ่งสูตรเหล่านี้เราสามารถทำเป็นหัวเชื้อเข้มข้นให้กับลูกค้าผู้บริโภคไป หยด ดรอปผสมกับ สกินแคร์ท่ใช้อยู่ได้ด้วย
5. CBD skincare ตอนนี้สารสกัดจากกัญชง กัญชา และ cbd ได้อนุญาตอย่างครบถ้วนในเครื่องสำอางแล้ว และ ในปีที่ผ่านๆมาเราจะเริ่มเห็นมีแบรนด์ต่างๆที่นำสารสกัดเหล่านี้มาใช้กันมากขึ้นแล้ว แต่เรียกว่า ยังมีโอกาสของการเติบโตอีกมาก จากข้อมูลเทรนด์ ของการเติบโตของ skincare cbd ทั่วโลก จะเติบโตสูงถึง 31.5% จากปี 2023 ถึงปี 2030 นั้นแสดงว่าอีก 7 ปีขั้นต่ำที่ ตลาดของ cbd กัญชง กัญชา จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และความปลอดภัยของเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของกัญชงกัญชานั้น ปลอดภัยมากๆเพราะ กฎหมายควบคุมปริมาณ THC ไว้อย่างเข้มงวด ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องผลต่อจิตและประสาทเลย ซึ่งทาง zen มีการศึกษาวิจัยการใช้ FIR technology เข้ามาช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของ skincare อีกด้วย ทำให้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพนั้นดีกว่าทั่วไป 3-5 เท่าเลยทีเดียว ซึ่ง cbd กัญชง กัญชา สามารถนำมาใช้ในสูตรตำรับได้หลากหลายมากๆ เช่น สิว ชะลอวัย ลดการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้น เป็นต้น
6. Microbiome skincare and Fermented beauty product เป็นนวัตกรรมรูปแบบการดูแลและบำรุงผิวในระดับจุลินทรีย์ขนาดจิ๋ว ที่จะคอยช่วยเป็นเกราะปกป้องผิวของเราให้มีความสมดุล แข็งแรง ดูอ่อนเยาว์ โดยการสร้างระบบนิเวศของผิวโดยรอบให้มีสารอาหารที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการดูแลผิว ผ่านกระบวนการวิธีใช้ในรูปแบบการพอกมาร์คบนผิวหน้า และให้เหล่าจุลินทรีย์ตัวดี เช่น Prebiotic (สารอาหารสำหรับจุลินทรีย์) และ Probiotic (กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์กับผิว) เข้าไปฟื้นฟูและสร้างสมดุลให้กับผิว ให้ผิวที่แพ้ง่ายแข็งแรง ลดการอักเสบ และปกป้องผิวให้ทนต่อการเจอสภาพแวดล้มได้อีกด้วย